มารู้จักคู่เงินยอดนิยม ในตลาด กันเถอะ

0
30
Hottest Currency Pair

แม้ว่าคู่เงินในตลาด Forex จะมีเป็นร้อยคู่ ให้เราเลือกเทรด แต่เราไม่สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของสกุลเงินประเทศต่างๆได้ทั่วโลก เนื่องจากเรามีขีดจำกัดในการรับข้อมูลข่าวสาร ดังนั้นการพิจารณาเลือกลงทุนเฉพาะคู่เงินยอดนิยม จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการลงทุน
ดังนั้นการศึกษาลักษณะนิสัยรวมถึงข้อมูลพื้นฐานของคู่เงินที่เป็นที่นิยม จึงจะทำให้ตัวเทรดเดอร์มีความเข้าใจถึงพฤติกรรมของคู่เงิน และมีความได้เปรียบในการลงทุน

ข้อดี-ข้อเสียของการเลือกคู่เงินยอดนิยมเทรด

ข้อดี

  • มีบทวิเคราะห์ทั้งเชิงเทคนิคคอลและเชิงพื้นฐานให้ทำการศึกษาอยู่แล้ว สามารถเลือกทำไปใช้ได้เลย
  • มีต้นทุนในการเทรดที่ต่ำ ทำให้สามารถทำกำไรได้ง่ายขึ้น
  • มีสภาพคล่องสูง มีปริมาณในการเทรดที่มาก สามารถรองรับปริมาณการซื้อ/ขายได้ทุกขนาด
  • มีความผันผวนต่ำ
  • คุณภาพกราฟของคู่เงินยอดนิยมจะสูง และคล้ายกันทุกโบรคเกอร์
  • EA ส่วนใหญ่ที่มีขายในตลาดส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้ใช้สำหรับคู่เงินยอดนิยม

ข้อเสีย

  • ข่าวของแต่ละคู่เงินที่จับคู่กันจะส่งผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะข่าวประกาศสำคัญของสหรัฐอเมริกา

คู่เงิน EURUSD (ยูโร/ดอลล่าร์สหรัฐ)

เป็นการจับคู่กันระหว่างคู่เงินอันดับ 1 (USD) และคู่เงินอันดับ 2 (EUR) ที่มีความต้องการสูงและเป็นสองสกุลเงินที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ปริมาณความต้องการหนาแน่นจึงหนาแน่นตลอดเวลา จึงเป็นคู่เงินที่นักเทรดนิยมเทรดมากที่สุด

ลักษณะกราฟ

  • ไม่เคลื่อนไหวกระชากแรงเหมือนคู่เงินอื่นๆ
  • เป็นคู่เงินที่สเปรดต่ำที่สุด สามารถทำกำไรได้ง่าย

ข้อมูลพื้นฐาน

  • เป็นการจับคู่กันของคู่เงินมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จึงส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงินโดยตรง
  • ปัจจุบันมีประเทศสมาชิกที่ใช้เงินยูโร 27 ประเทศ หากมีประเทศสมาชิกใดมีปัญหาจะส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าได้ ดังเช่นกรณีวิกฤตประเทศกรีซ

คู่เงิน USDJPY (ดอลล่าร์สหรัฐ/เยน)

เป็นการจับคู่กันระหว่างคู่เงินอันดับ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ(USD) และคู่เงินอันดับ 3 เยน(JPY) เป็นอีกหนึ่งคู่เงินยอดนิยมของทั่วโลกและเฉพาะคนไทย เนื่องจากตลาดญี่ปุ่นเปิดทำการในเวลา 7.00 น. ซึ่งถือว่าไม่เช้ามากจึงเหมาะสมสำหรับการเทรด

ลักษณะกราฟ

  • กราฟขึ้น-ลงแรงกว่าคู่เงิน EURUSD
  • มีสเปรดที่ต่ำและสภาพคล่องสูง
  • กราฟมีลักษณะมีการสู้กันระหว่าง USD และ JPY

ข้อมูลพื้นฐาน

  • ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เน้นการส่งออกเป็นหลัก อัตราดอกเบี้ยจึงมักจะต่ำอยู่เสมอ (ค่าเงินอ่อน แลกเงินจากการขายของต่างประเทศได้เยอะ)
  • บ่อยครั้งที่นักลงทุนจะการ Yen Carry Trade คือกู้เงินจากประเทศที่ดอกเบี้ยต่ำ ไปลงทุนในประเทศที่ให้ดอกเบี้ยสูง
  • สกุลเงินเยน เป็น หนึ่งใน Risk Indicator คือ มองเป็นหลุมหลบภัย เพื่อกระจายความเสี่ยงหรือหลีกเลี่ยงความผวนผัน

คู่เงิน GBPUSD (ปอนด์ สเตอร์ลิ่ง/ดอลล่าร์สหรัฐ)

เป็นการจับคู่กันระหว่างคู่เงินอันดับ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ(USD) และคู่เงินอันดับ 4 ปอนด์ สเตอร์ลิ่ง(GBP) ซึ่ง GBP เป็นสกุลเงินที่เก่าแก่และมีอิทธิผลสูงของโลก เมื่อจับคุ่กันทำให้ GBPUSD เป็นคู่เงินที่มีการซื้อ-ขายหนาแน่นมากที่สุดคู่หนึ่ง

ลักษณะกราฟ

  • กราฟขึ้น-ลงแรงในแต่ละวัน จึงมีโอกาสเข้าทำกำไรได้หลายครั้ง
  • เมื่อกราฟวิ่งหลังจากประกาศข่าวสำคัญ เมื่อหมดแรงราคามักย่อกลับมาที่เดิมก่อนข่าวประกาศ
  • มีสเปรดสูงกว่าคู่เงิน EURUSD แต่ไม่มาก ใกล้เคียงกับคู่เงิน USDJPY จึงทำกำไรได้ง่าย

ข้อมูลพื้นฐาน

  • ธนาคารกลางอังกฤษเป็นธนาคารเก่าแก่และที่มีอิทธิผลสูงการขยับหรือข่าวที่ออกมาล้วนส่งผลกระทบแก่ค่าเงิน
  • เมือง ลอนดอน ประเทศอังกฤษถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของตลาดทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นแหล่งรวบรวมโบรคเกอร์ชั้นนำต่างๆ

คู่เงิน AUDUSD (ดอลล่าร์ ออสเตรเลีย/ดอลล่าร์ สหรัฐ)

เป็นอีกหนึ่งคู่เงินที่คนไทยนิยมเทรด เนื่องจากตลาดออสเตรเลียเปิดทำการแต่เช้าตรู่ ทำให้คู่เงินคึกคักตั้งแต่เช้า

ลักษณะกราฟ

  • วิ่งขึ้นลงเชื่องช้า แต่มีลักษณะเป็นเทรนด์
  • มีสเปรดค่อนข้างสูง
  • กราฟขึ้น-ลงไม่แรง

ข้อมูลพื้นฐาน

  • สกุลเงิน AUD (ดอลล่าร์ ออสเตรเลีย) ของประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีรายได้หลักจากการทำเหมืองแร่ ซึ่งพึ่งพาประเทศที่ทำอุตสาหกรรมหนัก เช่น ญี่ปุ่น, จีน, สหรัฐ, เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ หากประเทศดังกล่าวเศรษฐกิจถดถอย จะทำให้ค่าเงินอ่อนไปด้วย
  • ประเทศออสเตรเลียส่งออกแร่โลหะมีค่าเป็นหลักคือ เหล็กและทอง หากปริมาณความต้องการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อค่าเงิน

คู่เงิน USDCHF (ดอลล่าร์ สหรัฐ/ฟรังก์ สวิส)

ธนาคารกลางสวิสฯ มีนโยบายทางการเงินที่เคร่งครัด และมีปริมาณทองคำสำรองมูลค่ามหาศาล เงินฟรังก์ สวิสต์ จึงเป็นเงินที่มีเสถียรภาพมากสกุลเงินหนึ่ง

ลักษณะกราฟ

  • กราฟมีลักษณะสวิงขึ้นลง อยู่กรอบ เมื่อวิ่งชนแนวรับหรือแนวต้าน มักจะวิ่งไปทดสอบอีกฝั่ง
  • กราฟมีลักษณะมีแรงต่อสู้กันระหว่าง USD และ CHF
  • คู่เงิน USD/CHF มีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธ์เชิงลบกับคู่เงิน EUR/USD และมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกันกับ USD/JPY
  • มีสเปรดไม่สูงมาก ใกล้เคียงกับคู่เงิน USD/JPY

ข้อมูลพื้นฐาน

  • เงินฟรังก์ สวิส เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ปลอดภัย ถือเป็น หนึ่งใน Risk Indicator ร่วมกันกับ เงินเยน
  • ช่วงเวลาที่ไม่ปกติ มีความผันผวนสูง หรือเกิดเหตการณ์ต่างๆ เงินฟรังก์ สวิส มักจะแข็งค่าขึ้น
  • รายได้หลักของสวิสเซอร์แลนด์มาจากการให้บริการ เช่น ธนาคาร, ประกันภัย เป็นต้น จึงเป็นประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าเป็นหลัก หากค่าเงินอ่อนค่า จะทำให้ประเทศมีต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น อาจเกิดผลกระทบแก่เศรษฐกิจได้
  • ข่าวประกาศของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินปลอดภัย จะส่งผลกระทบแก่คู่เงินเป็นอย่างมาก

คู่เงิน USDCAD (ดอลล่าร์ สหรัฐ/ดอลล่าร์ แคนาดา)

เป็นการจับกันระหว่างคู่เงิน บ้านใกล้เรือนเคียงกันระหว่าง สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ซึ่งเป็นคู่ค้ากันมาอย่างยาวนาน

ลักษณะกราฟ

  • กราฟไม่ผันผวนเท่าคู่เงิน GBPUSD
  • แนวโน้มไปในทิศทางเดียวกันกับ ราคาน้ำมันดิบ
  • เมื่อราคาวิ่งขึ้นแรง/ลงแรง กราฟมักจะกลับมาที่เดิม

ข้อมูลพื้นฐาน

  • ประเทศแคนาดา ต้องนำเข้าน้ำมันดิบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งหากราคานน้ำมันดิบสูงขึ้น ก็จะกระทบทำให้ค่าเงิน CAD อ่อนค่า

สรุปส่งท้าย

การที่เราได้ทำความรู้จักคู่เงินยอดนิยมที่นักลงทุนส่วนใหญ่เทรด ได้รู้จักลักษณะนิสัยเบื้องต้นของคู่เงินรวมถึงปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินของแต่ละประเทศแข็งค่า/อ่อนค่า ซึ่งล้วนมีสาเหตุมาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพื้นฐานของประเทศนั้น การเลือกเทรดเฉพาะคู่เงินยอดนิยม ทำให้เรามีเวลาเพิ่มมากขึ้น ทำให้สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของคู่เงินที่สนใจ ซึ่งเพิ่มความได้เปรียบในการเทรด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่