การเลือกโบรกเกอร์ Forex ด้วยตนเอง

0
65

การเลือกโบรกเกอร์ Forex นั้น มีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่จะบ่งบอกได้ว่าเราประสบความสำเร็จหรือไม่ เปรียบเสมือนการติดกระดุมเม็ดแรกในการลงทุน หากเลือกโบรกเกอร์ดี จะทำให้การเทรดของเราราบรื่น เทรดได้กำไรง่ายขึ้น ต้นทุนในการเทรดต่ำ สามารถถอนกำไรมาใช้จ่ายได้ ทำให้ตัวเทรดเดอร์ มีกำลังใจที่จะลงทุนและพัฒนาตนเอง แต่หากเลือกโบรกเกอร์ผิด จะทำให้เราการเทรดของเราไม่ราบรื่น ได้กำไรยากได้กำไรน้อย ขาดทุนบ่อย เนื่องจากมีต้นทุนในการเทรดที่สูง หนำซ้ำอาจถอนเงินออกมาใช้ไม่ได้ จนบั่นทอนจิตใจของเทรดเดอร์ ทำให้เลิกเทรดไปในที่สุด

ปัจจุบันมีโบรกเกอร์ให้บริการเทรด Forex อยู่มากมายหลายโบรกเกอร์ ให้เลือกเทรด ซึ่งปัจจุบันได้มีหลายเวปไซต์ที่มีการรีวิวโบรกเกอร์ ซึ่งบางเวปไซต์ก็มีความน่าเชื่อถือ แต่จะให้ดีเราควรที่จะทำการตรวจสอบและการเลือกโบรกเกอร์ Forex ด้วยตนเองได้ จะได้ทำให้เราทราบถึงข้อดี/ข้อเสียของโบรกเกอร์ที่เรากำลังจะใช้งาน

เกณฑ์การพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ Forex

ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นเพียงเกณฑ์การพิจารณาขั้นต่ำ อาจมีเพิ่มมากกว่านี้ได้แต่ควรจะไม่น้อยไปกว่านี้

  • มีประวัติเปิดมาอย่างยาวนาน เกิน 10 ปีขึ้นไป
  • ใช้เงินทุนในการเปิดบัญชีต่ำ
  • มีเว็บไซต์ภาษาไทยและมีเจ้าหน้าที่คนไทยให้บริการ
  • มีใบอนุญาติน่าเชื่อถือ
  • สามารถใช้งานได้ทั้ง MT4 และ MT5 และมีโปรแกรมอื่นสำรองไว้ให้
  • ปัจจุบันมีชาวต่างชาติใช้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก
  • มี Support ดูแล 24 ชม.

มีประวัติเปิดมาอย่างยาวนาน เกิน 10 ปีขึ้นไป

ทำไมจึงต้องเปิดดำเนินธุรกิจแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี เนื่องจากเราต้องการหาโบรกเกอร์ที่อยู่รอดได้ หลังจากผ่านวิกฤตการทางเงินต่างๆ มีรายได้ทำธุรกิจให้บริการ มีที่มาของกำไรจากค่าธรรมเนียมและส่วนต่างสเปรดเท่านั้น ไม่ทำตัวเป็นเจ้ามือเสียเอง(รับออเดอร์แต่เก็บคำสั่งไว้กับตัว ซึ่งโบรกเหล่านี้มักจะไม่รอดจากวิกฤตทางการเงิน)

ใช้เงินทุนในการเปิดบัญชีต่ำ

เงินทุนของเทรดเดอร์เป็นทรัพยากรจำกัดต้องใช้ให้คุ้มค่า การเลือกโบรกเกอร์ที่ใช้เงินในการเปิดบัญชีต่ำนั้น ทำให้เรามีโอกาสนำเงินที่เหลือไปทดลองเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์อื่น มีโอกาสทดลองว่ากลยุทธ์เหมาะสมที่ใช้กับโบรกเกอร์ใดจะได้กำไรมากกว่ากัน เช่นกรณี มีเงินลงทุน 1,000 $ โบรกเกอร์ A ใช้เงินเปิดบัญชี 1,000 $ จะไม่สามารถเปิดบัญชีที่อื่นได้แล้วเนื่องจากเงินหมด แต่หากไปใช้โบรกเกอร์อื่นที่ใช้เงินน้อยกว่า ก็จะสามารถทดสอบได้หลายโบรกเกอร์หลายกลยุทธ์

มีเว็บไซต์ภาษาไทยและมีเจ้าหน้าที่คนไทยให้บริการ

การเลือกโบรกเกอร์ควรพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ที่มีภาษาไทยด้วย ถือเป็นอีก 1 เกณฑ์ที่สำคัญในการตรวจเช็คโบรกเกอร์เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเราจะไม่ต้องพบเจอกับข้อจำกัดทางภาษาที่โบรกเกอร์จะสามารถเอาเปรียบเราได้ อีกทั้งยังเป็นการตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีความใส่ใจในการทำเว็ปไซต์ไม่ได้กดแปลภาษาแล้ววาง ซึ่งการทำเวปไซต์ให้แต่ละภาษาจะใช้ต้นทุนพอสมควร และที่สำคัญคือมีเจ้าหน้าที่คนไทยให้บริการ เพื่อดูแลเรามีเวลามีข้อสงสัยหรือมีปัญหาด้านการเทรด จะได้แก้ไขได้ถูกจุด ซึ่งหากข้อนี้ผ่านแสดงโบรกเกอร์มีความจริงจังแล้วส่วนหนึ่งในการที่จะให้บริการแก่เรา ซึ่งAdminเคยเจอหลายโบรกมีเวปไซต์ภาษาไทยแต่ทำเหมือนก๊อปปี้วางแถมยังไม่มีซัพพอร์ตไทย แบบโบรกแบบนี้เราไม่เสี่ยงดีกว่า

มีใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือ

ประตูสู่การเป็นโบรกเกอร์นั้นคือการขอใบอนญาตประกอบธุรกิจนายหน้า องค์กรที่ออกใบอนุญาตนั้นมีหลายองค์กรกระจายอยู่หลากหลายประเทศซึ่งมีความเข้มงวดแตกต่างกัน
โบรกเกอร์สามารถมีได้หลายใบอนุญาต ซึ่งแบ่งออกได้ 3 ระดับ 1.ระดับความเชื่อถือสูง 2.ระดับความเชื่อถือปานกลาง 3.ระดับความเชื่อถือต่ำ

ตัวอย่างโบรกเกอร์แและใบอนุญาตประเภทใบอนุญาต

  • ระดับ 1 ความเชื่อถือสูง
    • Financial Conduct Authority (FCA) สหราชอาณาจักร
    • Australian Securities & Investment Commission (ASIC) ประเทศออสเตรเลีย
    • Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • ระดับ 2 ความเชื่อถือปานกลาง
    • Cyprus Securities & Exchange Commission (CySEC) ประเทศไซปรัส
    • Financial Markets Authority (FMA) ประเทศนิวซีแลนด์
    • Central Bank of Russia (CBR) ประเทศรัสเซีย
  • ระดับ 3 ความเชื่อถือต่ำ
    • Financial Services Authority Seychelles (FSA Seychelles) ประเทศเซเชลส์
    • Vanuatu Financial Services Commission (VFSC) ประเทศวานูอาตู
    • International Financial Services Commission (IFSC) ประเทศเบลีซ

*โบรกที่มีใบอนุญาตความน่าเชื่อสูง ไม่ได้การันตีว่าจะดีกว่า โบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตความน่าเชื่อต่ำ เสมอไป แต่อาจมีโอกาสโกงหรือข้อผิดพลาดต่ำกว่า
ขณะเดียวกันโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตความน่าเชื่อต่ำ อาจจะเทรดได้กำไรดีกว่า เนื่องจากอาจจะ มีการให้โบนัส โปรโมชั่น Leverage ที่สูงกว่า

สามารถใช้งานได้ทั้ง MT4 และ MT5 และมีโปรแกรมอื่นสำรองไว้ให้

โบรกเกอร์ที่ดีควรให้เราเลือกใช้โปรแกรมในการเทรดได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น MT4,MT5 หรือแพลตฟอร์มอื่นๆให้เทรดเช่น Trading View หรือเทรดจากแอปฟลิเคชั่นของโบรกที่ทำมาเอง ยิ่งโบรกเกอร์มีช่องทางการเทรดหลายช่องทาง ยิ่งส่งผลดีต่อเรา อีกทั้งยังเป็นตัวกรองสถานะทางการเงินของโบรกเกอร์ยิ่งมีหลายช่องทางยิ่งค่าใช้จ่ายสูง แต่หากมีลูกค้าใช้เยอะจะคุ้มค่า และยังทำให้เรามีโอกาสเจอโบรกเถื่อนน้อยลง (เนื่องจากค่า License แพง ลูกค้าน้อยไม่คุ้ม)

ปัจจุบันมีชาวต่างชาติใช้เข้าใช้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก

การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราซึ่งมีมูลค่ามหาศาลต่อวัน การที่โบรกเกอร์ที่เราสนใจมีผู้เข้าใช้งานหลักเป็นประเทศต่างๆ เช่นในประเทศในแถบยุโรป หรืออเมริกาย่อมเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าหากมีแต่คนไทยเข้าใช้บริการให้ระมัดเป็นพิเศษ เนื่องจากมันมีเหตุผลว่าทำให้ฝรั่งถึงไม่ใช้หากโบรกเกอร์นั้นดีจริงๆ (ทำไมมีแต่คนไทยใช้ น่าคิด…)

วิธีตรวจสอบผู้เข้าใช้งานด้วยตัวเอง

  • ไปที่เวปไซต์ www.similarweb.com กรอกเวปไซต์ของโบรกเกอร์ที่เราสนใจ
ตัวอย่าง สนใจจะตรวจสอบ โบรกเกอร์ IC Markets ให้พิมพ์ชื่อโบรกไปได้เลย
  • เมื่อเข้ามาหน้าบนสุดก็จะบอก ข้อมูลเวปไซต์ หมวดหมู่ธุรกิจ ปีที่สร้าง ข้อมูลสำคัญต่างๆ รวมถึงสำนักงานใหญ่ สามารถนำไปตรวจสอบกับข้อมูลในเวปไซต์ว่าตรงกันหรือไม่ได้
  • ที่สำคัญคือล่างตรง Geography & Country Targeting ที่เราจะใช้ Traffic เดือนล่าสุดควรมาจากหลายๆ ประเทศ
ตัวอย่าง Traffic จาก IC Markets
  • แถมตัวอย่างเวปไซต์ที่มีผู้เข้าใช้งานหลัก เป็นคนไทยเยอะ ควรระมัดระวังเป็นเพิเศษ
ตัวอย่าง เวปไซต์ที่มีคนไทยเข้าใช้งานเยอะ

มี Support ดูแล 24 ชม.

ปกติเราไม่ค่อยได้คุยกับเจ้าหน้าที่ของโบรกเกอร์บ่อยหรอกครับ นานๆจะสอบถามสักครั้งเกี่ยวกับข้อสงสัยหรือปัญหา แต่โบรกเกอร์ที่จ้าง Support ไว้ตลอด 24 ชม.แสดงว่าเค้าจำเป็นต้องจ้างเนื่องจากลูกค้าเยอะ ต้องดูแลลูกค้าให้ได้รับบริการให้ทั่วถึง ลูกค้าเยอะแสดงว่ามีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ลูกค้าใช้บริการโบรกเกอร์นี้เยอะเป็นพิเศษ

สรุป

การที่เราจะสามารถตรวจสอบและเลือกโบรกเกอร์ได้เองนั้น เราควรจะมีเช็คลิสไว้ตรวจสอบโบรกเกอร์ ว่าข้อไหนมี/หรือไม่มีเป็นเพราะอะไร การเจอโบรกเกอร์ที่ดีจะทำให้เราสามารถเทรดได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จได้ในที่สุด ขณะเดียวกันหากเราไปใช้โบรกเกอร์แปลก ๆ ก็อาจจะทำให้ขาดทุนมากว่าได้กำไร มีปัญหารบกวนจุกจิกตลอด เทรดไปเครียดไป

การเลือกโบรกเกอร์สำหรับใช้งานนั้นไม่มีกฏตายตัว โบรกเกอร์ที่เขาว่าดีที่สุด อาจจะไม่ใช่โบรกเกอร์ที่ดีสำหรับเรา แต่อาจจะเป็นโบรกเกอร์กลางๆ แต่สามารถเหมาะสมกับกลยุทธ์เราก็ได้ แต่ที่สำคัญต้องไม่เป็นโบรกเกอร์เถื่อน…ก็ใช้ได้แล้วครับ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่